นำแสดงโดย "ติ๊ก"เจษฎาภรณ์ ผลดี(ชัย), สิริธนา หงส์โสภณ(ครูบี๋), "ต่อ"สหภาพ วีระฆามินทร์(มล), "ป๋อม"ชัยชาญ นิ่มพูลสวัสดิ์(จุง), "อี้"เอกชัย บูรณผานิต(วิทย์), โจโจ้ ไมอ๊อกชิ(โหน่ง) และ "โกโก้"กกกร เบญจาธิกุล(เปีย) ซึ่งหลังภาพยนตร์ออกฉาย แจ้งเกิดให้กับ "ป๋อม-ชัยชาญ" และ "โกโก้-กกกร" ทันที
"สตรีเหล็ก" ประสบความสำเร็จด้านรายได้ ก่อให้เกิดกระแสสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับกีฬา และเพศที่สาม นอกจากนี้ยังได้ออกไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ โดยได้รับการเสนอเข้าชิงรางวัล 12 รางวัล ได้รางวัลมา 10 รางวัล ทั้งรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน
เมื่อครูบี๋ โค้ชคนใหม่ก้าวเข้ามา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นกับทีมวอลเลย์บอลชายประจำจังหวัดลำปาง ซึ่งยังไม่เคยรู้รสชาติของชัยชนะมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว โค้ชคนใหม่พยายามทุกวิถีทางที่จะสร้างทีมให้แข็งแกร่ง มล และจุง นักตบลูกยางฝีมือก๋ากั่น เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ แต่กลับสร้างความอึดอัดให้กับคนอื่นๆ จนพากันลาออกไป เพราะทั้งคู่เป็นกะเทย คงเหลือแต่ ชัย มือเซ็ตตัวฉกาจที่พยายามทำใจ แต่ผู้เล่นแค่ 3 คน ไม่สามารถเป็นทีมได้ วิทย์, โหน่ง และเปีย เพื่อนร่วมทีมของมลและจุงสมัยเรียน จึงต้องเข้ามาช่วยเสริมกำลัง ภายใต้ชื่อทีม "สตรีเหล็ก"
เหรียญทองจากการแข่งขันกีฬาแห่งชาติที่ปากน้ำโพเกมส์ คือเป้าหมายของทีม อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดเส้นทางของการเป็นแชมป์ คือสิ่งทดสอบความแข็งแกร่งของกำลังกายและกำลังใจของทีมสตรีเหล็ก ทีมที่มีเป้าหมายเหมือนกัน โดยคนที่แตกต่างกันสุดขั้ว กิตติ ผู้มีอำนาจในแวดวงกีฬา เมืองแมน อดีตสมาชิกทีมลำปาง กลายมาเป็นหัวหน้าทีมคู่แข่งตัวเก่ง ต่างเป็นเพียงส่วนหนึ่งของด่านทดสอบที่จะพิสูจน์ใจ จนกว่าจะถึงวันแห่งการเผชิญหน้าครั้งสุดท้าย โดยมีเหรียญทองเป็นเดิมพัน
พระเอก สุดหล่อ "ติ๊ก" เจษฎาภรณ์ ผลดี หนุ่มแท้ๆ เพียงหนึ่งเดียวของทีม "สตรีเหล็ก" กล่าวถึงความประทับใจที่มีต่อภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟังว่า
"ตอนถ่ายหนัง "สตรีเหล็ก" สนุกดี เหมือนได้ซ้อมกีฬาด้วย ตัวผมเองชอบเล่นกีฬา จึงมีทักษะในเรื่องกีฬา "สตรีเหล็ก" ถือเป็นงานชิ้นที่ 3 ของผม การทำงานรู้สึกสบายขึ้น ส่วนหนึ่งด้วยบทไม่เครียด เจอบรรยากาศที่สนุกๆ ทุกคนเล่นเป็นกะเทยหมด มีผมคนเดียวที่เล่นเป็นผู้ชายธรรมดา แล้วหนังดำเนินเรื่องแบบสบายๆ ไดอะล็อกต่างๆ เป็นภาษาที่คนปกติพูดกันในชีวิตประจำวัน"
"ติ๊ก" กล่าวต่อว่า "จำได้ว่าตอนถ่ายทำผมหลุดขำตลอด อย่างพี่โจโจ้ตัวใหญ่ล่ำบึ้กขนาดนั้น หรือพี่ต่อที่เป็นนักร้องเท่ๆ แต่พอมาเล่นเป็นกะเทยกัน ผมก็อดขำไม่ได้ แต่ละคนเตรียมมุขมาขายผู้กำกับฯกันเพียบ เพราะหนังจะเป็นแนวตลกด้วย บรรยา กาศในกองจึงเฮฮามาก นอกจากความสนุกแล้ว หนังก็ยังให้ข้อคิด รวมถึงได้รับรางวัลทั้งในและนอกประเทศเยอะมาก ผมดีใจที่ "สตรีเหล็ก" เป็นหนังที่หลายคนยังนึกถึงและชื่นชม ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ครับ"
0 comments:
Post a Comment