ปิดตาเปิดใจ สอนน้องถ่ายภาพ

Thursday, September 8, 2011



สดจากเยาวชน
ปฤษณา กองวงค์


"เอาคนตาบอดมาถ่ายรูป พูดให้ใครฟังก็ถูกมองว่าตลก ผมก็เคยคิดแบบนั้น

หลัง สอนเด็กถ่ายรูปได้เป็นกำลังใจย้อนกลับมาหาผม เมื่อเราคิดและใครๆ ต่างก็คิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ผมทำให้เป็นไปได้ แล้วจะมีอะไรอีกบ้างที่ผมจะทำไม่ได้

เด็กๆ ทำให้เราหลับตาลง คิดมากขึ้น ทำอะไรให้ช้าลง และเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดให้กับเราในเรื่องความมานะพยายาม"

คำ กล่าวของ นายเจษฎา สุธรรม อาสาสมัคร Pict4All ในโครงการ "สอนนักเรียนตาบอดถ่ายภาพ ปี 2554" จัดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักเรียนตาบอดเห็นคุณค่าในศักยภาพตัวเอง โดย บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) ร่วมกับกลุ่มอาสาสมัคร Pict4All ที่โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่ พัทยา จ.ชลบุรี

ภาพครูอาสา 2-3 คนต่อลูกศิษย์ผู้พิการทางสายตา 1 คน สอนให้ทำความรู้จักกล้องดิจิตอลคู่ใจผ่านการสัมผัสทุกๆ ด้าน ตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละปุ่ม การจับกล้องที่ถูกวิธีทั้งแนวตั้งและแนวนอน การเปลี่ยนแบตเตอรี่ เมมโมรี่การ์ด ฝึกจนคล่องก่อนลงมือถ่ายภาพบุคคล ภาพหมู่และถ่ายภาพมาโคร

เมื่อได้ภาพครูจับนิ้วมือน้องๆ สัมผัสกรอบภาพแอลซีดีให้รู้ขนาดภาพและบอกลักษณะภาพที่ได้ โดยทุกครั้งจะได้ยินคำชมเป็นกำลังใจตลอด

"พี่ ครับถ่ายรูปไหมครับ" เสียงหนุ่มน้อยกล่าวทัก พร้อมขออนุญาตสัมผัสตัว ไหล่ นางแบบ-นายแบบ เพื่อคะเนความสูง เสร็จเดินถอยหลังไป 2-3 ก้าว ก่อนยกกล้องดิจิตอลวางทาบที่คิ้วแนบติดกับจมูก ล็อกกล้องไม่ให้สั่นไหว ก้มหน้าลงเล็กน้อย กดชัตเตอร์เบาๆ เงี่ยหูฟังเสียงติ๊ดๆ ที่บ่งบอกระยะโฟกัสและมือที่นิ่งแล้ว พร้อมนับ 1-3 ยิ้ม ก่อนกดชัตเตอร์

หาก ถ่ายภาพหมู่น้องๆ จะเดินไปจับไหล่ทุกๆ คน นับก้าวในใจจากคนแรกถึงคนสุดท้าย สมมติได้ 5 ก้าว ตากล้องก็จะเดินย้อนกลับไปสองก้าวครึ่ง นั่นหมายถึงกึ่งกลางภาพ แล้วหยุดกับที่ เดินถอยหลังไปสัก 4-5 ก้าว ยกกล้องแนบคิ้ว ก้มหน้า ขอเสียงก่อนลั่นชัตเตอร์

การถ่ายภาพระยะใกล้ ช่างภาพจะสัมผัสวัตถุที่ต้องการถ่าย เหยียดแขนตรง ตั้งฝ่ามือปลายนิ้วใกล้กับวัตถุ วางกล้องแนบฝ่ามือให้ได้ฉาก เลื่อนเข้าออกหาระยะ ก่อนกดชัตเตอร์

"คนที่สูญเสียการมองเห็นประสาท สัมผัสส่วนอื่นจะเฉียบแหลม ทั้งการสัมผัส กลิ่น เสียง พอเขาทำเป็นแล้วจะจดจำไม่ลืม แต่ก่อนอื่นเราต้องปรับเขากับกล้องให้เข้ากันก่อน" นายเจษฎากล่าว

นาย นพดล ปัญญาวุฒิไกร ที่ทดลองใช้ชีวิตอยู่ในโลกมืดและเดินทางถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ เล่าว่า เราต้องการให้สังคมฉุกคิดว่า คนด้อยโอกาสจำเป็นต้องไร้โอกาสหรือเปล่า เพราะคนส่วนใหญ่เอากรอบความคิดของตนเองมาตัดสินคนอื่น คิดว่าการท่องเที่ยวคือการมองเห็น ไม่เห็นไม่ต้องเที่ยว เช่นกันกับการถ่ายภาพต้องมองเห็น ถ้ามองไม่เห็นจะถ่ายภาพได้อย่างไร จึงไม่มีใครคิดให้เขาถ่ายภาพได้ เราจึงจับเรื่องที่คอนทราสต์กันมากและคิดว่าทำได้มาสอน ถึง 9 รุ่นแล้ว เด็กมีสมาธิ มีความสุขและอารมณ์ดี เมื่อผลงานออกมาดีจะทำให้เขามั่นใจและภูมิใจกับตัวเอง

"ผมเชื่อว่า หลังจากนี้เขาจะคิดว่าไม่มีอะไรยากเกินไปสำหรับการใช้ความวิริยะ อุตสาหะ และการใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา เหมือนการถ่ายภาพที่คุณคิดว่าถ่ายไม่ได้ แต่เราต้องประยุกต์เทคนิคการถ่ายภาพ ความรู้ให้สอดคล้องกับเขา และตัวเขาต้องอาศัยการฝึกฝนและเพียรพยายามประกอบกันก็จะสามารถทำได้ ทุกอย่าง"

นพดลกล่าวอีกว่า หลายคนคิดว่ามีประโยชน์อะไรในเมื่อคนตาบอดมองไม่เห็นสิ่งที่ถ่าย กลับไปที่คำตอบว่าความสุขอยู่ที่การกระทำ และทำให้เขาเห็นคุณค่าของตัวเอง การถ่ายภาพจะเป็นเครื่องมือสื่อสารระหว่างโลกของคนตาดีและคนตาบอด ภาพยังเป็นเครื่องบันทึกความทรงจำและเชื่อมใจเข้าด้วยกัน

ด้าน นายภูวพงษ์ ผจญอริพ่าย กล่าวว่า ต่างประเทศมีการสอนคนตาบอดถ่ายภาพ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น และอิสราเอล แต่สอนผู้ใหญ่วัยทำงานที่สนใจ เรามองถึงอนาคต แม้จะเป็นการสอนที่สุดโต่ง แต่ถ้าเขาถ่ายได้สิ่งที่ได้คือคำชมจากคนตาดี ไม่ใช่แค่สวย แต่มาพร้อมกับคำว่า "ทำได้ไง" ทำให้เขาคิดได้ว่าแม้จะตาบอดแต่ถ่ายภาพได้ ฉะนั้น อะไรๆ ในโลกเขาทำได้หมด สักวันเขาอาจกลายเป็นนักถ่ายภาพ

น้องเม น.ส.เมธินี เอี่ยมเพชร อายุ 18 ปี ชักชวนครูสำรวจรอบโรงเรียน ครั้นได้ยินเสียงพี่ๆ น้องๆ ที่เดินผ่าน เธอเอ�ยวาจาไพเราะขอถ่ายภาพทันที เมบอกว่าสนใจถ่ายรูปเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ อยากเรียน มีความสุข ไม่คิดว่าตัวเองจะถ่ายภาพได้ พอรู้หลักแล้วก็ทำได้

น้องกิ๊บ น.ส.ดวงพร คล้ายแดงคำ อายุ 19 ปี เล่าว่า ตอนแรกรู้สึกกังวล ตอนนี้มั่นใจขึ้นแล้ว แต่ต้องฝึกให้มาก อยากถ่ายภาพครอบครัวคนที่เรารัก อยากออกไปถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยว

ว่าแล้วน้องกิ๊บก็ถ่ายภาพตัวเองโชว์ให้ดู ทั้งยังถ่ายภาพคู่กับครูด้วย

อบ นายเกรียงไกร สีมาพัด อายุ 19 ปี พิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิดและมีความฝันอยากเป็นนักร้อง เผยว่า เมื่อมีโอกาสและได้ลงมือทำแล้ว ไม่มีอะไรยาก ภูมิใจมาก จะมีคนพิการทางสายตาสักกี่คนที่ได้เรียนถ่ายภาพ ผมอยากถ่ายรูปพ่อกับแม่เก็บไว้เป็นแรงบันดาลใจ เป็นกำลังใจเมื่อท้อ

"ดีใจ ที่ถ่ายภาพได้ เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้ ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองใหม่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้จะไม่มีดวงตามองเห็น บางสิ่งที่หายไปเราก็สามารถทำได้ เพียงแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการเท่านั้น" อบทิ้งท้าย
Share this article on :

0 comments:

Post a Comment

 
© Copyright 2010-2011 THAI NEWS All Rights Reserved.
Template Design by Herdiansyah Hamzah | Published by Borneo Templates | Powered by Blogger.com.